ความเป็นมา
                                การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า บริเวณลุ่มน้ำห้วยแม่โจ้   โดยราษฏรที่อาศัยอยู่บริเวณตำบล ป่าไผ่และบริเวณใกล้เคียง ทำให้ป่าไม้อันเป็นต้นน้ำห้วยแม่โจ้     มีสภาพค่อนข้างดี เมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณ ลุ่มน้ำอื่นที่ใกล้เคียงในช่วงก่อน   พ.ศ.  2520    อย่างไรก็ดีแม้ว่าราษฏรจะได้ช่วยพยายามรักษาป่าไม้อยู่แล้วก็ ตาม การลักลอบตัดไม้ในบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวข้างต้นยังมีอยู่เสมอทำให้สภาพป่าเสื่อมโทรมลงทุกที ๆ และลำน้ำห้วยแม่โจ้ ซึ่งเคยมีน้ำไหลตลอดฤดูกาลเริ่มหยุดไหลในฤดูแล้ง
                        ความเอาใจใส่ดูแลป่าไม้บริเวณลุ่มน้ำห้วยแม่โจ้    ของราษฏร ได้ทราบถึงองค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ  และในการเสด็จพระราชดำเนินมายังมหาวิทยาลัยแม่โจ้   เมื่อวันที่   2   มีนาคม   พ.ศ. 2521 จึงได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้มหาวิทยาลัยฯ   หาลู่ทางเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาต้นน้ำห้วยแม่โจ้ และพัฒนา แหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกในฤดูแล้งแก่ราษฏรในบริเวณใกล้เคียง    ซึ่งมหาวิทยาลัยแม่โจ้     ได้ดำเนินการสนอง พระราชประสงค์  โดยขั้นแรกมหาวิทยาลัยฯ  ได้ประสานงานกับสำนักงานชลประทานที่  1  เชียงใหม่   สำรวจ สภาพพื้นที่ทั่วไปและน้ำ ทราบว่าการพัฒนาป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอื่นต้องใช้ทรัพยากรสูงโดยเฉพาะการสร้าง อ่างหรือฝายไม่คุ้มกับการลงทุน และโดยที่มหาวิทยาลัยฯ    มีงบประมาณจำกัด จึงได้ขอความสนับสนุนจาก หน่วยงานของรัฐและเอกชน จัดกิจกรรมที่พอจะทำได้มาเป็นระยะ ๆ  นอกจากนี้โดยที่หมู่บ้านโปงมีอาณาเขต บางส่วนเป็นป่า และส่วนใหญ่เป็นที่ซึ่งราษฏรอยู่อาศัยและทำการเพาะปลูก การพัฒนาทรัพยากรต้นน้ำลำธาร และแหล่งน้ำควรจะดำเนินไปพร้อมๆ  กันกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของราษฎรด้วย     มหาวิทยาลัยฯ จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน   ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และวางแนวทางอย่างสอดคล้องกับความนึกคิดความต้องการ และความร่วมมือร่วมใจของราษฏรอย่าง แท้จริง  โดยการสนับสนุนของหน่วยงานของรัฐในจังหวัดเชียงใหม่ และการประสานงานของผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงใหม่
                        ต่อมาเมื่อวันที่ 19   กุมภาพันธ์ พ.ศ.  2527   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ   สยามบรมราชกุมารี  ได้เสด็จพระราชดำเนินไปพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยแม่โจ้    และได้มีพระราช กระแสรับสั่งให้กรมชลประทานพิจารณาสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นบริเวณต้นน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรของราษฏร และได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้ อธิการบดีมหาวิยาลัยแม่โจ้    จัดทำแปลงปลูกไม้ ใช้สอยสำหรับหมู่บ้านโปงและหมู่บ้านใกล้เคียง ตลอดจนส่งเสริมบริการด้านการเพาะปลูก พร้อมทั้งพัฒนา อาชีพและแปรรูปผลผลิตเกษตร ให้มีการเก็บรักษาและจำหน่ายต่อไป
                        และในวันที่  25  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2530   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ    พร้อมด้วยสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ   สยามบรมราชกุมารี  ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตร  โครงการพระราชดำริ บ้านโปง   ในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยแม่โจ้    บริเวณบ่อน้ำแท่นพระยาหลวงโดยมีพระราชกระแสรับสั่งให้มหาวิทยาลัย แม่โจ้   โดยคณาจารย์ นักศึกษา ช่วยกันดูแลรักษาและให้ปลูกไม้โตเร็วเพิ่มเติมเพราะเป็นต้นน้ำลำธาร  เช่น ให้ปลูกแคไทย เพาโรเนีย และไม้โตเร็วพื้นเมือง นอกจากนี้ยังช่วยแนะนำอาชีพให้แก่ราษฏร และให้ร่วมกัน อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ดีที่สุด
                        ต่อมาเมื่อวันที่   28   ตุลาคม  พ.ศ.  2534   อธิการบดีและอาจารย์   4   ท่าน  ได้ออกสำรวจ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสันทรายจังหวัดเชียงใหม่      พบว่ามีราษฏรบุกรุกแผ้วถาง และลักลอบตัดไม้มากยิ่งขึ้น พื้นที่ป่าสันทรายบางแห่งราษฎรจับจองเป็นที่ทำกินนอกจากนี้หน่วยราชการและเอกชนได้ดำเนินการขอเช่ามาก ขึ้น มหาวิทยาลัยฯ เกรงว่าจะไม่เหลือป่าไม้ที่เป็นต้นน้ำลำธารอีกต่อไปจึงได้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์ ศึกษาและ พัฒนาป่าบ้านโปงขึ้น  เนื้อที่   3,686  ไร่  และเนื้อที่  907  ไร่  โดยได้รับอนุมัติให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวจากกรมป่าไม้  (เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและศึกษาวิจัย  ส่งเสริมอาชีพ พัฒนาให้เป็นไปตามแนวพระราชดำริ)    และได้ ดำเนินการส่งเสริมอาชีพให้ราษฏรในบริเวณพื้นที่ป่าและใกล้เคียงนอกจากการพัฒนาพื้นที่ ตอนบน และตอนใต้ของลุ่มน้ำห้วยแม่โจ้  อันเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ
                        พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ    สยามบรมราชกุมารี  ได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตร   ณ   มหาวิทยาลัยแม่โจ้    อำเภอสันทราย    จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่    23   กุมภาพันธ์   พ.ศ.  2538   และเสด็จพระราชดำเนินไปอ่างเก็บน้ำทอดพระเนตรสภาพน้ำและ สภาพป่าสงวนแห่งชาติป่าสันทรายพื้นที่โครงการพัฒนาบ้านโปงฯ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ   โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้มีพระราชดำริ  และพระกระแสรับสั่งให้มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับกรมชลประทาน และ กรมป่าไม้  เพื่อรับสนองแนวพระราชดำริ  โดยสรุปคือให้กรมชลประทานสนับสนุนทางด้านอุปกรณ์เครื่อง สูบน้ำพลังน้ำ  ปรับระดับแรงดันของน้ำตามเหมาะสม  เพื่อกระจายน้ำให้ต้นไม้บริเวณไหล่เขาอย่างทั่วถึง ทำให้ป่าไม้ชุ่มชื้น  จึงจะช่วยให้ป่าต้นน้ำลำธารสภาพดีขึ้น  การสร้างฝายกั้นต้นน้ำลำธารตามร่องน้ำสายต่างๆ เพื่อให้ป่ามีความชุ่มชื้น  และดำเนินการทำโครงการทฤษฎีใหม่  โครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝน จัดพื้นที่ ตอนท้ายอ่างห้วยโจ้  เพื่อให้ราษฎรมีแหล่งน้ำสำหรับใช้เพาะปลูก เลี้ยงปลา  และเลี้ยงสัตว์ให้มีการปลูกหญ้า แฝกบริเวณขอบอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้  และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง   ไม่ให้หน้าดินถูกกัดเซาะหรือถูกน้ำชะล้าง เป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้จัดตั้งกองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติและ  กอง ทุนอนุรักษ์ป่าบ้านโปง เพื่อนำดอกผลกองทุนดำเนินการกิจกรรมต่าง  ๆ  ในพื้นที่ให้เป็นไปตามแนวพระราช ดำริ